4 เคล็ดลับ ป้องกันท้องแตกลายฉบับคุณแม่ตั้งครรภ์

เคล็ดลับป้องกันท้องแตกลาย

เคล็ดลับ ป้องกันท้องแตกลายสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ท้องแตกลายเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ เกิดจากการที่ผิวหนังบริเวณหน้าท้องขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่นได้ลดลง ส่งผลให้เกิดรอยแตกสีแดงหรือม่วง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะกลายเป็นสีขาว

แม้ว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่รอยแตกลายก็ส่งผลต่อความมั่นใจของคุณแม่ได้ ดังนั้น มาดูวิธีป้องกันท้องแตกลายกัน

สาเหตุที่ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ท้องแตกลาย

  • ผิวหนังบริเวณหน้าท้องขยายตัวอย่างรวดเร็วเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของการตั้งครรภ์ เนื่องจากท้องโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเกิดจากการตั้งครรภ์ หรือการเพิ่มน้ำหนักจากสาเหตุอื่น ๆ การเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็วก็เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดท้องแตกลาย
  • พันธุกรรม หากคุณแม่หรือญาติสนิทมีประวัติท้องแตกลาย ก็มีโอกาสสูงที่คุณแม่จะเกิดท้องแตกลายเช่นกัน
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนบางชนิด เช่น คอร์ติโซล มีผลต่อการลดลงของคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น
  • อายุ คุณแม่ที่อายุมาก มีแนวโน้มที่จะเกิดท้องแตกลายมากกว่าคุณแม่วัยรุ่น
  • การดื่มน้ำไม่เพียงพอ ทำให้ผิวแห้งและขาดความยืดหยุ่น
  • การขาดวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซีและอี ทำให้ผิวหนังอ่อนแอ
  • การใช้ยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวหนังบางลงและเสี่ยงต่อการเกิดรอยแตกลาย

วิธีสังเกตลักษณะรอยแตกลาย

  • คุณแม่ควรเริ่มสังเกตลักษณะของผิวหนังตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ หรือเมื่อรู้สึกว่าผิวหนังบริเวณหน้าท้องเริ่มตึง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของการตั้งครรภ์
  • สังเกตสีของผิวหนัง ในช่วงแรกรอยแตกลายจะเป็นเส้นสีแดงหรือม่วงคล้ำคล้ายเส้นเลือดฝอยแตก แสดงว่าอาจเป็นรอยแตกลายเริ่มแรก มักจะมีอาการคันร่วมด้วย
  • ลักษณะรอยแตกจะเป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้ง อาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่แตกต่างกันไป
  • ให้สังเกตบริเวณหน้าท้อง สะโพก ต้นขา และเต้านม
ท้องแตกลาย

เคล็ดลับป้องกันท้องแตกลาย

1. บำรุงผิวด้วยครีมป้องกันรอยแตกลาย

  • เลือกครีมที่เหมาะสม อุดมไปด้วยสารบำรุงผิว เช่น Shea Butter, Cocoa Butter, Vitamin E, Hyaluronic Acid ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ทาครีมอย่างสม่ำเสมอ ควรทาครีมบำรุงผิวอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้าและก่อนนอน โดยเน้นบริเวณหน้าท้อง สะโพก ต้นขา และก้น
  • เริ่มใช้ตั้งแต่เนิ่นๆ ควรเริ่มใช้ครีมตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ หรือเมื่อสังเกตเห็นว่าผิวหนังเริ่มตึง

2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและยืดหยุ่นได้ดีขึ้น ควรดื่มน้ำประมาณ 8 – 10 แก้วต่อวัน

3. ทานอาหารที่มีประโยชน์

  • รับประทานอาหารที่มีวิตามิน A, C และ E ซึ่งช่วยในการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
  • การรับประทานอาหารที่มีโปรตีน จะช่วยในการซ่อมแซมและสร้างเซลล์ผิวใหม่

4. หลีกเลี่ยงการเกา

เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงตั้งครรภ์จะทำให้ผิวแห้ง ระคายเคืองจนเกิดความคัน การเกาอาจทำให้รอยแตกลายแย่ลง ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการเกาดีที่สุด

เคล็ดลับเพิ่มเติม

การนวดเบาๆ บริเวณที่ผิวหนังตึงตรา จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและลดความตึงเครียดของผิวหนัง

การป้องกันท้องแตกลายเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าจะปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้แล้ว แต่ก็อาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเกิดรอยแตกลาย เช่น พันธุกรรม และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน แต่หากคุณมีรอยแตกลายเกิดขึ้นแล้ว ไม่ต้องกังวลใจไป รอยแตกลายจะค่อยๆ จางลงหลังคลอด ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่ช่วยลดเลือนรอยแตกลายได้ หรือการทำเลเซอร์ แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสูงไปหน่อย ขอให้คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกท่านมีสุขภาพที่ดีและมีความสุขกับการตั้งครรภ์